ซีซั่น 1

ศักราชหลังหายนะปีที่ 323 กว่าสามร้อยปีหลังมหาสงครามระหว่างโลกกับบรรดาอาณานิคมในอวกาศ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ “สงครามมหาวิบัติ“ ดาวอังคารได้รับการปรับปรุงสภาพให้เหมาะสมแก่การตั้งถิ่นฐานและกลายเป็นหนึ่งในอาณานิคมของมนุษยชาติ ทว่า แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปเพียงใดก็ตาม แต่มนุษย์ที่อยู่บนดาวอังคารก็ปรารถนาจะได้รับอิสรภาพจากรัฐบาลโลกและต้องการยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของตน เพราะถึงแม้บรรดาชาติต่างๆ ที่อยู่บนดาวอังคารจะได้รับสิทธิในการปกครองตนเอง แต่โดยรูปธรรมแล้วผู้อาศัยบนดาวดวงนี้ต่างดำรงชีวิตด้วยสภาพแร้นแค้น จนต้องพึ่งพาการพัฒนาทางเศรษฐกิจจากโลก

"คูเดเลีย ไอน่า เบิร์นสไตน์" หญิงสาวชนชั้นผู้ดีชาวดาวอังคาร ได้ว่าจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยพลเรือน Chryse Guard Security (CGS) ให้ช่วยพาเธอเดินทางไปยังโลก เพื่อเปิดการเจรจาเรียกร้องเอกราชของอาณานิคม "คริวเซ่" จากโลก แต่องค์กรทหาร “กัลลาฮอร์น” ซึ่งมีอำนาจในระดับโลก ได้เข้าโจมตีที่ตั้งของ CGS เพื่อยับยั้งขบวนการเรียกร้องเอกราชของอาณานิคมคริวเซ่ ระหว่างการโจมตีดังกล่าว "ออร์กา อิสึกะ" ผู้นำหน่วยรบที่ 3 ของ CGS ซึ่งเป็นกองกำลังของทหารเด็กจำนวนมาก ได้ตัดสินใจแข็งข้อต่อพวกผู้ใหญ่ระดับสูงขององค์กรที่ชิงหนีเอาตัวรอดและทิ้งให้เหล่าทหารเด็กออกไปสู้ตายอย่างไร้ค่า ท่ามกลางความสิ้นหวังนั้นเอง "มิคาสึกิ ออกัส" เด็กกำพร้าซึ่งอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของออร์ก้า ได้ขับโมบิลสูท "กันดั้มบาร์บาทอส" ซึ่งได้รับการซ่อมแซมอย่างเร่งรีบออกรบ และขับไล่กองกำลังของกัลลาฮอร์นออกไปได้สำเร้จ หลังการสู้รบ ออร์กาและหน่วยรบที่ 3 ที่เหลืออยู่ได้กำจัดพวกผู้ใหญ่ระดับสูงขององค์กรที่หักหลังพวกตน แล้วยึด CGS มาเป็นของตนเอง และเปลี่ยนฐานะองค์กรใหม่เป็นหน่วยทหารรับจ้างในนาม “เท็กกะดัน” (กองกำลังดอกไม้เหล็ก)

งานชิ้นเแรกของเท็กกะดันคือการคุ้มกันคูเดเลียในการเดินทางไปยังโลกเพื่อเปิดการเจรจากับประเทศ "อาร์บราว" ซึ่งเป็นชาติมหาอำนาจที่ปกครองอาณานิคมคริวเซ่อยู่ หากแต่ว่าความพยายามขัดขวางการเดินทางของพวกเขาจากฝ่ายกัลลาฮอร์นที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ได้ทำให้เท็กกะดันต้องหันไปพึ่งพากำลังของ "เทวาซ" ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลอยู่โดยรอบดาวพฤหัสบดี ภายใต้การคุ้มครองของเทวาซและการช่วยเหลืออย่างลับๆ ของ "แม็คกิลลิส ฟารีด" หนึ่งในผู้นำระดับสูงของกัลลาฮอร์นซึ่งมีวาระซ่อนเร้นของตัวเอง เท็กกะดันจึงสามารถพาคูเดเลียไปยังโลกได้สำเร็จ และคุ้มกันเธอไปจนถึงเมืองหลวงของอาร์บราวได้อย่างปลอดภัย ณ ที่นั่นเธอประสบความสำเร็จในการเจรจาให้ดาวอังคารมีอิสระในด้านเศรษฐกิจมากขึ้น ขณะที่แม็คกิลลิสได้ฉวยโอกาสใช้ความสำเร็จดังกล่าวโค่นล้มพ่อบุญธรรมของตน และเสริมฐานะของตนเองภายในกัลลาฮอร์นให้มั่นคงยิ่งขึ้น

ซีซั่น 2

2 ปีให้หลังจากเหตุการณ์ในซีซั่นแรก เท็กกะดันได้ตั้งตัวเองขึ้นมาเป็นบริษัททหารรับจ้างชั้นนำ ขณะที่คูเดเลียได้ตั้งบริษัททำเหมืองขึ้นในอาณานิคมคริวเซ่ โดยดำเนินกิจการเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของผู้อยู่อาศัยบนดาวอังคาร ด้านแม็คกิลลิสก็ได้เดินหน้าตามเจตนารมณ์ของตนเองในการปฏิรูปองค์กรทหารกัลลาฮอร์น อย่างไรก็ตาม กองยาน "อาเรียนฮอด" ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้วอำนาจของกัลลาฮอร์นที่ต่อต้านแม็คกิลลิส ได้เริ่มก่อวินาศกรรมต่อทั้งแม็คกิลลิสและเท็กกะดัน ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องร่วมมือกันต่อต้านกองยานอาเรียนฮอด โดยแม็คกิลลิสให้คำมั่นสัญญาไว้ว่า เมื่อเขาสามารถควบคุมอำนาจในกัลลาฮอร์นได้เต็มที่แล้ว ก็จะถ่ายโอนอำนาจการปกครองทั้งหมดเหนือดาวอังคารให้แก่เท็กกะดัน ซึ่งจะทำให้ทั้งสองฝ่ายมีสถานะเป็นผู้ปกครองดาวอังคารโดยพฤตินัย

แม็กกิลลิสได้กลายเป็นผู้บัญชาการของกองยานร่วม "Outer Earth Orbit Regulatory Joint Fleet" และเป็นพันธมิตรกับเท็กกะดันเพื่อปราบปรามกองยานอาเรียนฮอดของ "รุสตัล อีเลียน" รุสตัลได้ส่งทหารรับจ้างคนหนึ่งแทรกซึมเข้าไปในเท็กกะดันสาขาโลกเพื่อสร้างความขัดแย้งภายในขึ้น แต่เหตุดังกล่าวได้ยุติลงในที่สุดเมื่อเท็กกะดันสาขาดาวอังคารเดินทางมาถึงสาขาโลก หลังจากนั้นเท็กกะดันได้ค้นพบอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงที่สามารถทำงานได้ด้วยระบบอัตโนมัติหรือโมบิลอาร์เมอร์ ซึ่งได้ตื่นขึ้นมาด้วยอุบัติเหตุท่ามกลางการสู้รบอันดุเดือด ทำให้เท็กกะดันต้องทำลายโมบิลอาร์เมอร์ดังกล่าวทิ้ง ต่อมากลุ่ม "เทอร์ไบนส์" ซึ่งเป็นพันธมิตรกลุ่มหนึ่งของเท็กกะดันและแม็กกิลลิสได้ถูกล้อมจับและทำลายล้างจากการลักลอบค้าอาวุธ ทำให้หลังจากนั้นเท็กกะดันได้ตัดสินใจตัดขาดจากเทวาซเพื่อหันมาร่วมมืออย่างเต็มที่กับแม็คกิลลิส ซึ่งวางแผนจะก่อการรัฐประหารเพื่อยึดอำนาจจากกัลลาฮอร์นทั้งหมด แต่ด้วยกำลังรบในอวกาศของกองยานอาเรียนฮอดที่เหนือกว่ากองกำลังของแม็คกิลลิสและเท็กกะดันมาก ทำให้ทั้งสองฝ่ายจำต้องถอนทัพกลับไปยังดาวอังคาร

ขณะที่ฝ่ายกัลลาฮอร์นได้วางกำลังล้อมฐานบัญชาการของเท็กกะดันไว้ ฝ่ายเท็กกะดันก็ได้วางแผนที่จะให้สมาชิกของตนหลบหนีไปยังคริวเซ่ ส่วนแม็คกิลลิสได้มุ่งหน้าไปยังกองยานอาเรียนฮอดเพื่อเผชิญหน้ากับรุสตัลโดยตรง ทว่า กาเอลิโอได้หยุดยั้งแม็คกิลลิสไว้และสังหารเขา ขณะเดียวกันออร์กาซึ่งเป็นผู้นำของเท็กกะดันก็ถูกคนของ "โนบลิส กอร์ดอน" ลอบสังหารเช่นกัน ด้านมิคาสึกิและอากิฮิโระได้ต้านทานกองกำลังของกัลลาฮอร์นไว้อย่างสูสี แม้ว่าจำนวนกำลังรบจะด้อยกว่ากันมากก็ตาม เพื่อถ่วงเวลาให้สมาชิกของเท็กกะดันสามารถถอนตัวไปยังคริวเซ่ได้อย่างปลอดภัย ในที่สุดฐานบัญชาการของเท็กกะดันได้ถูกระดมยิงจนพังพินาศ มิคาสึกิและอากิฮิโระเสียชีวิตในการรบ เท็กกะดันดูเหมือนว่าจะถูกกวาดล้างจนสิ้นซาก สงครามที่เกิดขึ้นครั้งนี้ต่อมาได้กลายเป็นที่รู้จักในชื่อ "กรณีแม็คกิลลิส ฟารีด"

หลายปีต่อมาหลังสงครามยุติ กัลลาฮอร์นได้ยกเลิกระบบสภาปกครองแบบเดิมและเริ่มจัดรูปองค์กรใหม่ให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นโดยมีรุสตัลเป็นผู้นำ อาณานิคมต่างๆ บนดาวอังคารได้รับเอกราชและรวมตัวกันเป็นสหภาพดาวอังคารโดยมีคูเดเลียเป็นประธานสหภาพ สมาชิกของเท็กกะดันที่รอดตายได้เริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่ภายใต้ตัวตนใหม่ตามวิถีทางของแต่ละคน แอทราซึ่งมีลูกชายกับมิคาสึกิได้เลี้ยงดูลูกชายของเธอร่วมกันกับคูเดเลียและใช้ชีวิตอย่างสงบในไร่ข้าวโพดบนดาวอังคาร